Mr.Pongsakorn Poosankam
Monday, March 13, 2006
BPEL คืออะไร
BPEL ย่อมาจาก Business Process Execution Language
BPEL ก็เป็นอีกภาษาหนึ่ง ที่พัฒนาขึ้นมาจากภาษา XML กล่าวคือ BPEL ใช้ Syntax ทั้งหมดของ XML เพื่อเป็นการอธิการขบวนการการทำงานของ SOA
BPEL มักจะถูกนำมาใช้งานภายในองค์กรหรือระหว่างองค์กร เพื่ออธิบายขบวนการการทำงานของระบบที่เป็น SOA เพื่อให้รวมเซอร์ิวิสต่างๆ เข้าด้วยกัน (assembling) ทำให้ขบวนการต่างๆ ทางเซอร์วิสที่มีความซับซ้อนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาเว็บเซอร์วิสเพื่อให้สามารถถูกใช้งานได้โดย BPEL จะต้องคำนึงถึงเรื่องของ Interop. ระหว่าง Platform ด้วยเสมอ การพัฒนาเว็บเซอร์วิสแบบ Literal /Document Stype จึงเป็นทางออกที่มักถูกนำไปใช้ ทั้งนี้การพัฒนาเว็บเซอร์วิสด้วย โมเดลของ Asynchronous ก็เป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกันที่จะทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างเซอร์วิสเป็นอิสระต่อกัน ไม่ขึ้นต่อกัน
ฺBPEL มักจะถูกเปรียบเทียบให้เป็น Music sheet ซึ่งก็คือ กระดาษที่บันทึกขั้นตอนการบรรเลงของอุปกรณ์
ดนตรีให้สามารถบรรเลงร่วมกันได้อย่างไพเราะ การจะทำให้เพลงใดๆ ออกมาได้อย่างไพเราะนั้นขึ้นอยู่กับผู้เขียนบทบรรเลงบทเพลง เครื่องเล่นดนตรีเองก็เปรียบเสมือนเว็บเซอร์ิิวิส ที่จะถูกเล่นโดยนักดนตรี นักดนตรีก็จะทำการบรรเลงโดยอาศัย music sheet ถ้า music sheet เขียนขึ้นมาดี อุปกรณ์ทางดนตรีต่างๆ ก็จะเล่นได้อย่างสอดประสานกัน แต่ถ้า music sheet เขียนได้ไม่ดี ก็อย่างหวังว่าเพลงที่บรรเลงออกมาจากนักเล่นดนตรีชั้นยอดจะไพเราะได้
การพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบ SOA ที่มี BPEL ที่เป็นตัวควบคุมขบวนการทำงานนั้น จะประกอบไปด้วย
wsdl (web services description language )-> อธิบายข้อมูลของเว็บเซอร์ิวิสขององค์กรใดๆ
bpel file -> เป็น bple ที่จะถูกเขียนขึ้นมาโดยอาศัย editor หรือ อาจจะเป็น tool ที่ใช้ในการสร้าง bple แบบ visual เพื่ออธิบายขบวนการการทำงานต่างๆ ว่ามีทิศทางอย่างไร มีการส่งข้อมูลอะไร ไปที่ไหนบ้าง
bpel engine -> สำหรับประมวลผลหรือทำงานตามขั้นตอนของ bpel file
ิิ
BPEL ย่อมาจาก Business Process Execution Language
BPEL ก็เป็นอีกภาษาหนึ่ง ที่พัฒนาขึ้นมาจากภาษา XML กล่าวคือ BPEL ใช้ Syntax ทั้งหมดของ XML เพื่อเป็นการอธิการขบวนการการทำงานของ SOA
BPEL มักจะถูกนำมาใช้งานภายในองค์กรหรือระหว่างองค์กร เพื่ออธิบายขบวนการการทำงานของระบบที่เป็น SOA เพื่อให้รวมเซอร์ิวิสต่างๆ เข้าด้วยกัน (assembling) ทำให้ขบวนการต่างๆ ทางเซอร์วิสที่มีความซับซ้อนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาเว็บเซอร์วิสเพื่อให้สามารถถูกใช้งานได้โดย BPEL จะต้องคำนึงถึงเรื่องของ Interop. ระหว่าง Platform ด้วยเสมอ การพัฒนาเว็บเซอร์วิสแบบ Literal /Document Stype จึงเป็นทางออกที่มักถูกนำไปใช้ ทั้งนี้การพัฒนาเว็บเซอร์วิสด้วย โมเดลของ Asynchronous ก็เป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกันที่จะทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างเซอร์วิสเป็นอิสระต่อกัน ไม่ขึ้นต่อกัน
ฺBPEL มักจะถูกเปรียบเทียบให้เป็น Music sheet ซึ่งก็คือ กระดาษที่บันทึกขั้นตอนการบรรเลงของอุปกรณ์
ดนตรีให้สามารถบรรเลงร่วมกันได้อย่างไพเราะ การจะทำให้เพลงใดๆ ออกมาได้อย่างไพเราะนั้นขึ้นอยู่กับผู้เขียนบทบรรเลงบทเพลง เครื่องเล่นดนตรีเองก็เปรียบเสมือนเว็บเซอร์ิิวิส ที่จะถูกเล่นโดยนักดนตรี นักดนตรีก็จะทำการบรรเลงโดยอาศัย music sheet ถ้า music sheet เขียนขึ้นมาดี อุปกรณ์ทางดนตรีต่างๆ ก็จะเล่นได้อย่างสอดประสานกัน แต่ถ้า music sheet เขียนได้ไม่ดี ก็อย่างหวังว่าเพลงที่บรรเลงออกมาจากนักเล่นดนตรีชั้นยอดจะไพเราะได้การพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบ SOA ที่มี BPEL ที่เป็นตัวควบคุมขบวนการทำงานนั้น จะประกอบไปด้วย
wsdl (web services description language )-> อธิบายข้อมูลของเว็บเซอร์ิวิสขององค์กรใดๆ
bpel file -> เป็น bple ที่จะถูกเขียนขึ้นมาโดยอาศัย editor หรือ อาจจะเป็น tool ที่ใช้ในการสร้าง bple แบบ visual เพื่ออธิบายขบวนการการทำงานต่างๆ ว่ามีทิศทางอย่างไร มีการส่งข้อมูลอะไร ไปที่ไหนบ้าง
bpel engine -> สำหรับประมวลผลหรือทำงานตามขั้นตอนของ bpel file
ิิ
